‘อะยิอะเยาะ’ แกงผักสารพัดสรรพคุณทาง ‘ยา’ อาหารพื้นเมืองน่าน
สำหรับใครที่ไปแอ่วเหนือ ถ้าไม่ลองกินอาหารเหนือก็คงถือว่ามาไม่ถึง วันนี้เราพามารู้จักกับ ‘อะยิอะเยาะ’ (อะยิอะเยาะ เป็นภาษาเหนือ แปลว่า โน่นนิดนี่หน่อย) แกงผักที่ใช้ผักนานาชนิดจากผักริมรั้วของชาวบ้านในสมัยก่อน นำมาผสมกับปลาย่างและปลาป่น รสชาติจะคล้ายกับแกงเลียงของภาคกลางแต่จะแตกต่างกันที่พริกแกงนั่นเอง นอกจากนี้ แกงอะยิอะเยาะไม่ได้กินเพื่อความอร่อยเท่านั้น แต่ผักที่เป็นวัตถุดิบหลักยังกินแล้วเป็น ‘ยา’ อีกด้วย
1.ใบผักฮาก
คำว่า ‘ฮาก’ ภาษาเหนือหมายถึง รากพืช เป็นพืชที่เกาะตามรั้ว มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Erythropalum scandens Blume ใบผักฮากมีสรรพคุณหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ช่วยย่อยอาหาร มีไขมันดีช่วยควบคุมการอักเสบ การแข็งตัวของเลือด และช่วยบำรุงสมอง
นอกจากนี้ รากของผักฮากยังมีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระอย่างฟีนอลิก (Phenolic) ที่เป็นสารสำคัญที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบของเซลล์และอาจช่วยยับยั้งการกลายพันธุ์ของเซลล์ที่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดเนื้องอกและเซลล์มะเร็งด้วย
2.ใบมะรุม
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของ ‘มะรุม’ คือ Moringa oleifera ทั้งส่วนของต้นและใบ มีคุณค่าทางสารอาหารอุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น ไอโซลิวซีน, ไลซีน และกรดอะมิโนวาลีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายผลิตขึ้นเองไม่ได้ นอกจากนี้ ในส่วนของใบมะรุมจะเป็นส่วนที่มีวิตามินซี วิตามินเอ และวิตามินบีสูงมากช่วยเป็นยาระบาย กระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ ต่อต้านอนุมูลอิสระ และลดไขมันในเลือดได้อีกด้วย
3.ผักเสี้ยว
‘ผักเสี้ยว’ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Bauhinia Purpurea Linn มีคุณค่าทางสารอาหารสูงเพราะมีทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน เส้นใย แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามิน A , B1 , B2 , C และไนอะซิน ล้วนแล้วแต่เป็นสารที่มีประโยชน์แก่ร่างกายทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นช่วยเรื่องระบบเผาผลาญและต่อต้านอนุมูลอิสระ
4.ใบตำลึง
‘ตำลึง’ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Coccinia grandis Voig เป็นแหล่งของวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา และยังมีเบตาแคโรทีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นวิตามินเอ นอกจากนี้ ยังมีเอนไซม์อะไมเลสช่วยย่อยอาหาร เสริมภูมิต้านทานได้อีกด้วย
5.ฟักทองอ่อน / ฟักทองแก่
ฟักทอง มีชื่อว่าทางวิทยาศาสตร์ว่า Cucurbita moschata ประกอบไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารมากมาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี โพแทสเซียม และธาตุเหล็ก เป็นต้น ดังนั้น ในฟักทองจึงมีสรรพคุณมากมาย ทั้งช่วยบำรุงสายตา ควบคุมน้ำหนัก บำรุงเลือด ช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส และต่อต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น
นอกจากนี้ ในแกงอะยิอะเยาะยังมีวัตถุดิบอีกมากมาย เช่น บวบหอม บวบเหลี่ยม เห็ดนานาชนิด รวมไปถึงตัวเครื่องแกง ขิง ข่า พริก ตะไคร้ หอมแดง กระเทียม ล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น ดังนั้น การกินแกงอะยิอะเยาะ 1 ถ้วย จะทำให้ทุกคนได้ทั้งความอิ่มอร่อยและได้สุขภาพดีแถมไปด้วย