‘ดินน่าน’ ความหวังของการสร้างผลผลิตเลื่องชื่อระดับโลก

‘ดิน’ คือ ปัจจัยหลักของการปลูกต้นไม้ พืชผัก ผลไม้ หรือแม้แต่พืชที่มีสรรพคุณทางยา ซึ่งผู้ปลูกนอกจากจะต้องมีความรู้ด้านการปลูกพืชแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องรู้จักสภาพดินในพื้นที่เพาะปลูกของตนเอง หากดินเป็นดินเหนียว แร่ธาตุน้อย หรือมีสารเคมีเจอปน ก็อาจทำให้พืชที่ปลูกลงไปไม่ได้ผลผลิตที่ดีตามต้องการ รวมถึงสารสำคัญในพืชนั้น ๆ ก็อาจจะได้ไม่เพียงพอ และที่ร้ายแรงกว่านั้นคืออาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้

ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อมีดินดีเกษตรกรก็จะใช้ประโยชน์จากดินในการประกอบอาชีพได้ ซึ่งปัจจุบันก็ได้ใช้วิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย อาทิ การใช้ยิปซัม สายแร่ชนิดหนึ่งที่พบได้ในธรรมชาติและจากการสังเคราะห์ โครงสร้างหลักประกอบด้วย แคลเซียมไอออน (Ca2+) ซัลเฟตไอออน (SO42-) และโมเลกุลของน้ำ (H2O) ถ้ามีการนำยิปซัมมาใช้ในการปรับปรุงคุณภาพดิน จะช่วยลดปัญหาความเสื่อมโทรมของดินให้เหมาะสมกับการเพาะปลูก ช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และเป็นการอนุรักษ์ดิน สามารถบรรเทาปัญหาพื้นที่ทำกิน อีกทั้งจะทำให้เกิดความยั่งยืนต่อการพัฒนาการเกษตร

หากพูดถึง ‘ดินน่าน’ ปัจจุบันพบว่าดินในพื้นที่จังหวัดน่านมีหลายลักษณะ เช่น ดินเหนียว ดินร่วน ดินร่วนปนทราย ดินภูเขา เป็นต้น และพบว่าชาวบ้านในจังหวัดน่านส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรต้องพึ่งพาความอุดมสมบูรณ์ของดินในการปลูกพืชผลต่าง ๆ แต่จากปัญหาเศรษฐกิจของจังหวัดน่านที่ผ่านมา ทำให้เกิดผลกระทบหลายด้าน ทั้งพื้นที่ป่าถูกทำลาย และ ‘ดินน่าน’ เองก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ปัจจุบันพบว่าดินน่านมีสารเคมีเจอปนจากการเพาะปลูกพืชต่าง ๆ โดยใช้สารเคมี และการขาดองค์ความรู้ด้านการเกษตรที่ถูกต้องของเกษตรกร 

การแก้ปัญหานอกจากจะแก้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์แล้ว สิ่งสำคัญต้องเข้าใจต้นตอของปัญหาที่แท้จริง นั่นคือ ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร แต่รายได้จากผลผลิตไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ และการจะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรงอกเงยได้ประสิทธิภาพสูงสุดทั้งในแง่ของประโยชน์ต่อผู้บริโภคแล้วต้องช่วยสร้างรายได้ให้ชาวบ้านอย่างเพียงพอนั้น ต้องส่งเสริมความรู้ด้านการเกษตรที่ถูกต้องให้กับชาวบ้าน ไม่ใช้สารเคมีที่ทำลายผืนดิน และต้องได้ผลผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงสุดอยู่บนพื้นที่ที่จำกัด ก็จะทำให้ชาวบ้านได้ผลผลิตที่ดี ส่งออกได้จริง และสามารถกลับมาใช้ประโยชน์จากดินเดิมได้อีก โดยที่ดินเหล่านั้นยังคงเป็นดินดีปราศจากสารเคมี

ตอบโจทย์ความต้องการของคนน่านทุกคน คือ ‘ดินน่าน’ จะสามารถสร้างผลผลิตที่ให้รายได้กับเกษตรกร ไม่เพียงแต่สร้างผลผลิตที่มีคุณค่าด้านอาหารเท่านั้น สิ่งหนึ่งที่แม้แต่คนน่านอาจจะมองข้ามไป คือ ‘ดินน่าน’ สามารถสร้างผลผลิต‘พืช’ หรือ ‘หญ้า’ ที่มีสรรพคุณทางยาได้ เพราะที่ผ่านมาบรรพบุรุษคนน่านต่างมีวิถีชีวิตอยู่กับป่า การหุงหาอาหาร รวมไปถึงการรักษาโรคก็ต้องพึ่งพาทรัพยากรที่มีอยู่ตามธรรมชาติบนภูเขา หรือในป่าเช่นกัน หากพืชที่มีสรรพคุณทางยาเหล่านี้ถูกนำมาพัฒนาต่อยอดให้มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ นี่ก็อาจเป็นอีกหนึ่งผลผลิตที่จะช่วยสร้างชื่อ สร้างรายได้ ให้กับคนน่านอย่างยั่งยืนเช่นกัน

จึงกล่าวได้ว่า ‘ดินน่าน’ เป็นความหวังของ ‘คนน่าน’ ในการสร้างผลผลิตที่ไม่ใช่แค่คนน่านจะได้รับประโยชน์เท่านั้น เพราะจากนี้ผลผลิต ‘พืชที่มีสรรพคุณทางยา’ จากจังหวัดน่านจะต้องมีประสิทธิภาพ ผ่านการพิสูจน์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้ จนกลายเป็นผลผลิตที่สร้างชื่อระดับโลกในที่สุด

Post a comment