ตำรับยาแผนไทยจาก พืชสมุนไพร รักษาโรคได้จริงหรือ ?
การใช้พืชสมุนไพรเป็นยา เป็นภูมิปัญญาที่อยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนาน โดยเฉพาะใน ตำรับยาแผนไทย ที่มีพื้นฐานจากการใช้พืชสมุนไพรเป็นหลักในการรักษาโรคหรืออาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ตำรับยาแผนไทยจึงเต็มไปด้วยสมุนไพรหลากหลายชนิดที่มีสรรพคุณทางยา แต่ในปัจจุบันการแพทย์ไทยก้าวหน้าไปมาก นวัตกรรมการรักษาโรคก็มีวิธีรักษาที่หลากหลาย จึงทำให้หลายคนสงสัยว่า ‘ พืชสมุนไพรสามารถรักษาโรคได้จริงหรือไม่ ? ’
สมุนไพร คืออะไร ?
สมุนไพร คือ สารประกอบทางเคมี พืช สัตว์ หรือแร่ธาตุ ที่นำมาใช้เพื่อบรรเทาอาการ รักษาทางการแพทย์หรือส่งเสริมสุขภาพ โดยจะอยู่ในรูปของผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติโดยตรง หรือนำมาสกัดเป็นสารที่มีสรรพคุณในการรักษา บรรเทา หรือป้องกันโรค รวมถึงการบำรุงร่างกายให้แข็งแรงด้วย
ตำรับยาแผนไทย คืออะไร ?
ยาแผนไทย คือ ตำรับยาที่พัฒนามาจากองค์ความรู้ดั้งเดิมของแพทย์แผนไทย โดยอาศัยพืชสมุนไพร อวัยวะของสัตว์หรือแร่ธาตุต่าง ๆ มาผสมผสานเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อใช้บรรเทาความเจ็บป่วย รักษาโรค โดยเน้นการปรับสมดุลของร่างกายตามทฤษฎีธาตุทั้ง 4 ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ
- ธาตุดิน – กล้ามเนื้อ กระดูก ผิวหนัง ฟัน
- ธาตุน้ำ – เลือด น้ำเหลือง น้ำตา น้ำลาย
- ธาตุลม – ระบบไหลเวียน อากาศในร่างกาย
- ธาตุไฟ – ความร้อน การย่อยอาหาร การเผาผลาญ
ซึ่งมีความเชื่อโบราณว่า สาเหตุของการเกิดโรคมาจากการเสียสมดุลของธาตุเหล่านี้ในร่างกาย ซึ่งตำรับยาเหล่านี้มักจะทำออกแบบในรูปของยาต้ม ยาลูกกลอน ยาเม็ด ยาผง หรือ ยาน้ำ
ตัวอย่างยาแผนไทยที่ใช้พืชสมุนไพรเป็นหลัก

1) ยาหอม
ยาแผนไทยที่สมัยก่อนต้องมีติดบ้าน ยาหอมช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ที่เกิดจากลมในร่างกายไม่ปกติ เช่น แก้วิงเวียน คลื่นไส้ โดยใช้สมุนไพรที่มีกลิ่นหอมและมีสรรพคุณทางยา มีทั้งแบบยาผงและยาเม็ด มีหลายสูตร หลายตำรับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกใช้พืชสมุนไพรที่มีกลิ่นเฉพาะตัว เช่น มะลิ กฤษณา กระดังงา
2) ยาประคบ
ลูกประคบที่หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เป็นยาแผนไทยภายนอกที่บรรเทาอาการปวดเมื่อย โดยจะนำเอาพืชสมุนไพรทั้งหมดมาห่อด้วยผ้าขาวบาง แล้วนำไปนึ่งให้ร้อนก่อนนำมาประคบบริเวณที่มีอาการปวด ส่วนประกอบสำคัญของยาประคบ เช่น ไพล เสลดพังพอน
3) ยาแก้ไข้
ในแพทย์แผนไทย การทำยาสมุนไพรแก้ไข้มีอยู่หลายชนิด ยกตัวอย่างเช่น ยาห้าราก ที่เหมาะกับการใช้ในอาการไข้ออกผื่น ไข้จากอีสุกอีใส หรือยาฟ้าทะลายโจร ที่เหมาะกับการใช้ในอาการไข้ เจ็บคอจากเชื้อไวรัส
4) ยาแก้ท้องเสีย
มีสมุนไพรหลายชนิดที่ใช้บรรเทาอาการท้องเสียได้ดี อาจจะใช้รักษาเดี่ยว ๆ เช่น เปลือกมังคุด ทับทิม ใบฝรั่งเอามาต้มน้ำดื่ม หรือนำหลายพืชสมุนไพรมาผสมตามตำรับยา ยกตัวอย่างเช่น ยาเหลืองปิดสมุทร จะมาในรูปแบบของยาเม็ดที่มีรสฝาด ประกอบด้วย เหง้าขมิ้นชัน ครั่ง ใบทับทิม หัวแห้วหมู ฯลฯ
5) ยาแก้โรคผิวหนัง
กรมการแพทย์แผนไทยได้ยกเอา 5 สมุนไพร คือ ขมิ้นชัน ข่าแก่ ใบพลู เปลือกมังคุดแห้ง ทองพันชั่ง ว่าสามารถรักษาอาการโรคผิวหนังได้ ซึ่งพืชสมุนไพรเหล่านี้ก็นำมาผลิตเป็นยาสมุนไพรเพื่อให้สะดวกต่อการใช้ เช่น ยาทิงเจอร์จากทองพันชั่ง ทาแก้โรคผิวหนังจากเชื้อรา หรือยาทิงเจอร์พลู บรรเทาอาการแมลงกัดต่อย
6) ยาบำรุงธาตุ ปรับธาตุ
อย่างที่กล่าวไว้ว่า ธาตุ ถือเป็นพื้นฐานของสุขภาพร่างกาย หากธาตุทั้ง 4 ไม่สมดุล อาจก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ แพทย์แผนไทยจึงใช้ยาบำรุงธาตุ ยาปรับธาตุ เพื่อฟื้นฟูสมดุลของร่างกาย เช่น ตรีผลา ประกอบไปด้วย สมอไทย สมอพิเภก มะขามป้อม ที่ช่วยขับสารพิษ ล้างลำไส้ หรือยาตรีเกสรมาศ ที่ช่วยแก้อ่อนเพลียในผู้ที่เพิ่งพักฟื้นไข้ ประกอบไปด้วย เปลือกฝิ่นต้น เกสรบัวหลวง ลูกมะตูมอ่อน
แล้วพืชสมุนไพร สามารถรักษาโรคได้จริงหรือไม่ ?
จากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันและการรักษาโรคในแพทย์แผนไทย พืชสมุนไพรถือเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยและช่วยรักษาผู้ป่วยเทียบเคียงยาแผนปัจจุบันได้จริง
ตัวอย่างเช่น ฟ้าทะลายโจร ซึ่งมีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ได้รับการศึกษาและมีหลักฐานสนับสนุนว่าสามารถช่วยบรรเทาอาการของโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่และโรคโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงน้อยได้ โดยอ้างอิงจากผลการศึกษาจากอาสาสมัคร 57 ราย พบว่าอาสาสมัครที่ได้รับฟ้าทะลายโจรทุกรายเริ่มมีอาการดีขึ้นตั้งแต่วันแรกของการใช้ยา และไม่พบอาการใด ๆ อีกตั้งแต่วันที่ 7 ของการทดสอบ ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า ยาฟ้าทะลายโจร สามารถรักษาได้เทียบเท่ายาแผนปัจจุบัน
ในบางกรณีที่มีการโฆษณาถึงเรื่องการใช้ยาสมุนไพรในการรักษาโรคร้ายแรงอย่าง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน ซึ่งแต่ละโรคจะมีกระบวนการรักษาทางการแพทย์เป็นขั้นเป็นตอนไว้ ยาสมุนไพรจึงไม่ได้ช่วยรักษาโรคนั้นโดยตรง แต่อาจเข้ามาช่วยเสริมเพื่อบรรเทาอาการได้ เช่น เมื่อมีการให้ยาแล้ว ผู้ป่วยไม่เจริญอาหาร เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน อาจใช้ยาสมุนไพรเข้ามาช่วยรักษาอาการเหล่านี้ได้ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาตามกระบวนการของแพทย์แผนปัจจุบัน และควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนเริ่มใช้สมุนไพรหรืออาหารเสริมขณะอยู่ระหว่างการรักษาโรคเรื้อรัง
ข้อมูลอ้างอิง
กองผลิตภัณฑ์สมุนไพร
https://herbal.fda.moph.go.th/popular-herbal/popular-2/
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
https://pharmacy.su.ac.th/herbmed/drug/text/drug_type.php?dtID=1
สถาบันการแพทย์แผนไทย
https://ittm.dtam.moph.go.th/index.php/2/191-5
วารสารการแพทย์ ปีที่ 40
https://he02.tci-thaijo.org/index.php/reg45/article/view/252146